เมื่อไหร่ใช้ความร้อน เมื่อไหร่ใช้เย็น?

เมื่อไหร่ใช้ร้อน เมื่อไหร่ใช้เย็น เป็นอีกหนึ่งคำถามยอดฮิตที่มักจะมีผู้เข้าใจผิดอยู่เสมอค่ะ โดยผลของอุณหภูมิทั้งสองมีผลต่อเนื้อเยื่อแตกต่างกัน ดังนั้นการใช้อุณหภูมิผิดในการรักษาตนเองจึงจะส่งผลเสียมากกว่าผลดี และต่อไปนี้คือคำแนะนำค่ะว่าในกรณีใดบ้างที่ควรใช้ร้อนและควรใช้เย็น

 

ผลของอุณหภูมิต่อเนื้อเยื่อร่างกาย

ความร้อนและความเย็นจะส่งผลต่อเนื้อเยื่อร่างกายแตกต่างกัน โดยข้อแตกต่างระหว่างอุณหภูมิทั้ง 2 มีดังต่อไปนี้

1. ผลของความร้อนต่อเนื้อเยื่อร่างกาย

ความร้อนจะส่งผลต่อหลอดเลือดทำให้หลอดเลือดขยายตัวซึ่งจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดให้แก่บริเวณที่ได้รับความร้อน และยังช่วยให้การกำจัดของเสียในบริเวณนั้นดีขึ้น ผลอีกประการหนึ่งของความร้อน คือ ช่วยให้กล้ามเนื้อที่เกร็งตัวอยู่คลายตัวค่ะ

2. ผลของคววามเย็นต่อเนื้อเยื่อร่างกาย

ในส่วนของความเย็นจะส่งผลตรงข้ามกับความร้อน นั่นคือความเย็นจะทำให้หลอดเลือดหดตัว ซึ่งสามารถช่วยห้ามเลือดในบริเวณที่มีเลือดออกได้ค่ะ นอกจากนั้นผลของความเย็นยังช่วยลดการอักเสบขึ้นได้เช่นกัน

1. การใช้ความเย็น

เพราะความเย็นส่งผลทำให้หลอดเลือดหดตัวและช่วยลดการอักเสบ ดังนั้นเราจึงใช้ความเย็นในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุและมีการบาดเจ็บเกิดขึ้นที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายค่ะ เช่น เมื่อเกิดข้อเท้าแพลงหรือถูกกระแทก นอกจากนี้เรายังสามารถใช้ความเย็นเพื่อลดอาการปวดที่เกิดจากการอักเสบของร่างกาย เช่น อาการปวดเข่า หรือปวดไหล่จากการอักเสบของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นได้เช่นกัน

2. การใช้ความร้อน

การใช้ความร้อนที่ได้ผลดีที่สุดมักใช้ในกรณีของการปวดเมื่อยร่างกายจากสาเหตุของการออกกำลังกายหรือจากการทำงานหนักค่ะ เพราะผลของความร้อนจะช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัวและช่วยระบายของเสียดังที่ได้กล่าวมาแล้ว แต่การใช้ความร้อนหลังการออกกำลังกายหรือการเล่นกีฬามีข้อควรระวังก็คือ หากมีอาการบาดเจ็บและปวดเกิดขึ้นร่วมด้วยไม่ควรใช้ความร้อนโดยเด็ดขาด แต่ให้เปลี่ยนมาใช้ความเย็นแทนค่ะ

 

      การใช้ความร้อนและการใช้ความเย็นมีผลต่อระยะเวลาในการฟื้นตัวของร่างกายค่ะ หากใช้ไม่ถูกกับสภาวะที่เกิดขึ้นก็จะส่งผลเสียทำให้การฟื้นตัวเกิดช้าลง และโอกาสหายก็จะช้าลงด้วยค่ะ

 

Visitors: 595,943