การป้องกันการเกิดแผลกดทับในผู้ป่วยอัมพาตครึ่งซีก: เรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
แผลกดทับ (Pressure Ulcers หรือ Bedsores) เป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยที่เคลื่อนไหวร่างกายได้จำกัด โดยเฉพาะผู้ป่วยที่เป็นอัมพาตครึ่งซีก (Hemiplegia) ไม่ว่าจะเป็นผลจากโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) หรืออุบัติเหตุทางสมองและไขสันหลัง หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม อาจทำให้เกิดแผลกดทับที่ลุกลามรุนแรง นำไปสู่การติดเชื้อ เจ็บปวด และคุณภาพชีวิตที่แย่ลงอย่างมาก
บทความนี้จะนำเสนอความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับแผลกดทับ สาเหตุที่เกิดในผู้ป่วยอัมพาตครึ่งซีก พร้อมแนวทางการป้องกันอย่างเป็นระบบ
ทำไมผู้ป่วยอัมพาตครึ่งซีกจึงเสี่ยงต่อการเกิดแผลกดทับ?
การเคลื่อนไหวจำกัด: ผู้ป่วยอัมพาตครึ่งซีกไม่สามารถขยับครึ่งหนึ่งของร่างกายได้ดี ทำให้ไม่สามารถเปลี่ยนท่าทางเองได้อย่างสม่ำเสมอ ส่งผลให้เกิดแรงกดทับต่อเนื้อเยื่อบริเวณใดบริเวณหนึ่งนานเกินไป
การรับรู้ความรู้สึกลดลง: ผู้ป่วยอาจไม่รู้สึกเจ็บหรือไม่สบายเมื่อนั่งหรือนอนในท่าทางเดิมนานๆ จึงไม่สามารถตอบสนองต่อสัญญาณเตือนของร่างกายได้
ภาวะโภชนาการไม่ดี: ผู้ป่วยบางรายมีภาวะขาดสารอาหารหรือขาดโปรตีน ซึ่งทำให้ผิวหนังอ่อนแอและซ่อมแซมตัวเองได้ช้าลง
บริเวณที่เสี่ยงต่อการเกิดแผลกดทับ
- ก้นกบและสะโพก (sacrum และ ischial tuberosity)
- ข้อศอก
- หลังศีรษะ
- หลังไหล่
- ข้อเท้า และส้นเท้า
- หัวเข่า (โดยเฉพาะด้านนอกของเข่าในผู้ป่วยนอนตะแคง)
แนวทางการป้องกันแผลกดทับ
การพลิกตะแคงตัวอย่างสม่ำเสมอ
- หากคนไข้เป็นผู้ป่วยติดเตียงที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ด้วยตนเอง ญาติและคนดูแลควรพลิกตัวผู้ป่วยทุก 2 ชั่วโมง
- หากนั่งบนรถเข็น ควรเปลี่ยนท่าทางหรือยกตัวขึ้นทุก 15–30 นาที
ใช้อุปกรณ์ช่วยลดแรงกดทับ
- ใช้เบาะลม เบาะเจล หรือเบาะโฟมพิเศษ
- หมอนรองบริเวณเข่า ข้อศอก หรือข้อเท้า เพื่อหลีกเลี่ยงการกดทับโดยตรง
ดูแลผิวหนังอย่างสม่ำเสมอ
- ตรวจสอบผิวหนังทุกวัน โดยเฉพาะบริเวณเสี่ยง
- รักษาความสะอาด และให้ผิวแห้งอยู่เสมอ
- ใช้ครีมให้ความชุ่มชื้น แต่หลีกเลี่ยงการนวดบริเวณที่แดงหรือเจ็บ
ส่งเสริมโภชนาการที่ดี
- ให้โปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุเพียงพอ
- ปรึกษานักโภชนาการหากผู้ป่วยเบื่ออาหาร หรือน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว
ทำกายภาพบำบัดและฝึกเคลื่อนไหว
- การฟื้นฟูสมรรถภาพด้านการเคลื่อนไหวจะช่วยลดความเสี่ยงของแผลกดทับ
- ฝึกให้ผู้ป่วยช่วยตัวเองในการเปลี่ยนท่าได้บ้างหากเป็นไปได้
สัญญาณเตือนเบื้องต้นของแผลกดทับ
ผิวหนังมีรอยแดงที่ไม่จางหายแม้จะลดแรงกดแล้ว
ผิวลอก เป็นตุ่มพอง หรือมีแผลเปิด
เจ็บ แสบ หรือรู้สึกแปลกๆ บริเวณนั้น (ในผู้ป่วยที่ยังรู้สึก)
หากพบอาการเหล่านี้ ควรแจ้งแพทย์หรือพยาบาลทันทีเพื่อเริ่มต้นการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม
สรุป
แผลกดทับสามารถป้องกันได้ หากมีการดูแลอย่างรอบด้านและสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในผู้ป่วยอัมพาตครึ่งซีกซึ่งมีความเสี่ยงสูง ครอบครัว ผู้ดูแล และบุคลากรทางการแพทย์ควรร่วมมือกันในการเฝ้าระวังและปฏิบัติตามแนวทางการป้องกันอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดี ปราศจากความเจ็บปวดจากแผลกดทับ และสามารถฟื้นฟูสมรรถภาพได้อย่างเต็มศักยภาพ