การหกล้มในผู้สูงอายุ: ภัยเงียบที่ไม่ควรมองข้าม
ปัญหาใหญ่สำหรับผู้สูงอายุก็คือการหกล้ม เพราะการหกล้มในผู้สูงอายุเป็นปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยและรุนแรงกว่าที่หลายคนคิด โดยเฉพาะในประเทศไทยที่กำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างรวดเร็ว การหกล้มอาจก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงกระดูกหัก หรือแม้กระทั่งเสียชีวิต อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อจิตใจและคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุอย่างมาก นอกจากนี้การหกล้มของผู้สูงอายุเพียงครั้งเดียวในบ้านก็อาจเป็นสาเหตุของผลพวงปัญหาที่ตามมามากมายในครอบครัว ในบทความนี้เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาการหกล้มของผู้สูงอายุกันค่ะ
สาเหตุที่พบบ่อยของการหกล้มในผู้สูงอายุ
- การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายตามวัย
การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายถือเป็นปัญหาหลักที่ทำให้ผู้สูงอายุมีโอกาสหกล้มได้ง่ายขึ้น โดยปัญหาที่พบมักจะได้แก่ปัญหากล้ามเนื้ออ่อนแรง ปัญหาการทรงตัวไม่ดี ปัญหาทางด้านสายตาพร่ามัว หรือแม้กระทั่งการตอบสนองช้าลง บางครั้งเราอาจพบปัญหาของโครงสร้างและท่าทางของผู้สูงอายุที่เปลี่ยนแปลงไปเช่นตัวก้ม ตัวห่อมากเกินไป เหล่านี้คือสาเหตุที่ทรงผลให้ผู้สูงอายุเพิ่มความเสี่ยงที่จะหกล้มได้เช่นกัน - โรคประจำตัว
โรคประจำตัวบางชนิดก็เพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้ผู้สูงอายุหกล้มได้เช่นกัน เช่นโรคความดันโลหิต โรคพาร์กินสัน เบาหวาน หรือโรคเกี่ยวกับระบบประสาท โดยอาจส่งผลให้ผู้สูงอายุเกิดอาการเวียนศีรษะหรือไปขัดขวางการเคลื่อนไหวปกติทำให้หกล้มได้ง่ายขึ้น - ผลข้างเคียงจากยา
ผลที่ตามมาจากโรคประจำตัวก็คือการต้องใช้ยาบางชนิดที่อาจส่งผลข้างเคียงอย่างการทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะ ง่วงนอน หรือสูญเสียการทรงตัวซึ่งก็จะไปส่งผลกระทบให้ผู้สูงอายุมีความเสี่ยงหกล้มได้เช่นกัน - สิ่งแวดล้อมในบ้าน
การจัดสิ่งแวดล้อมในบ้านที่ไม่เหมาะสมก็เพิ่มความเสี่ยงหกล้มในผู้สูงอายุได้เช่นกันเช่นเฟอร์นิเจอร์และของใช้ในบ้านที่รกหรือระเกะระกะ การปูกระเบื้องที่ลื่นเกินไป การวางพรมที่หลวมและลื่นได้ รวมถึงแสงสว่างไม่เพียงพอ สิ่งเหล่านี้มีโอกาสทำให้ผู้สูงอายุหกล้มได้เช่นกัน - การใช้เครื่องช่วยเดินอย่างไม่ถูกวิธี
ผู้สูงอายุบางรายมีปัญหาในการใช้เครื่องช่วยเดิน บางคนไม่คุ้นเคยกับการใช้ไม้เท้า หรือวอล์กเกอร์ หรือบางคนใช้เครื่องช่วยเดินที่ไม่เหมาะสมกับร่างกาย เหล่านี้ก็เป็นปัญหาที่เพิ่มความเสี่ยงหกล้มให้ผู้สูงอายุได้เช่นกัน
ผลกระทบจากการหกล้ม
- ภาวะกระดูกหัก โดยเฉพาะกระดูกสะโพกหรือข้อมือ หากเป็นกระดูกชิ้นเล็กอย่างข้อมือก็อาจสร้างผลกระทบไม่มากแต่หากเป็นกระดูกสะโพกหักก็มีโอกาสที่จะสร้างปัญหาใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อตัวผู้สูงอายุและครอบครัวไม่น้อย
- เลือดออกในสมอง หากการหกล้มนั้นรุนแรงมากจนศีรษะฟาดพื้น ความเสี่ยงที่จะเกิดเลือดออกในสมองเพราะผู้สูงอายุเวลาหกล้มมักจะไม่สามารถยั้งตัวได้ทำให้การหกล้มแต่ละครั้งจะรุนแรงมากกว่าปกติ
- ความกลัวการล้มซ้ำ ส่งผลให้ไม่กล้าเคลื่อนไหวโดยผู้สูงอายุที่ล้มบ่อย ๆ มักจะมีปัญหากลัวการหกล้มซ้ำ โดยบางรายอาจเกิดภาวะแพนิคจนไม่กล้าที่จะเคลื่อนไหว ซึ่งส่งผลให้อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ขึ้นตามมา
- สูญเสียความสามารถในการช่วยเหลือตนเอง ในรายที่เกิดภาวะกระดูกหักโดยเฉพาะหากเป็นกระดูกในจุดสำคัญ ผู้สูงอายุเหล่านี้จะไม่สามารถเคลื่อนไหวตัวเองได้ บางรายอาจต้องนอนพักรักษาอาการกระดูกหักอยู่บนเตียง สำหรับผู้สูงอายุที่ต้องอยู่ติดกับเตียงเป็นเวลานานโดยไม่ได้ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวเลย พวกเขาจะค่อย ๆ สูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหวลงและจะค่อย ๆ สูญเสียความสามารถในการช่วยเหลือตนเองไปในที่สุด
- ภาวะซึมเศร้าและคุณภาพชีวิตที่ลดลง เมื่อผู้สูงอายุไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ในหลายรายจะพบว่าจะเริ่มมีภาวะซึมเศร้าตามมา และเริ่มรู้สึกว่าตนเองเป็นภาระและท้ายที่สุดก็จะนำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ลดลงและอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ลดทอนคุณภาพชีวิตตามมา
วิธีป้องกันการหกล้มในผู้สูงอายุ
- ตรวจสุขภาพสม่ำเสมอ
เพื่อตรวจสอบการมองเห็น การได้ยิน และภาวะสุขภาพโดยรวมว่ามีโรคหรือความบกพร่องใดที่จะเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้สูงอายุหกล้มบ่อย เพื่อจะได้ป้องกันการหกล้มที่อาจเกิดขึ้น - ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและการทรงตัว รวมถึงความยืดหยุ่นของร่างกาย โดยการออกกำลังกายมีความสำคัญที่ช่วยป้องกันภาวะหกล้มในผู้สูงอายุได้ - ปรับปรุงสภาพแวดล้อมในบ้าน
การปรับปรุงที่อยู่อาศัยให้เหมาะสมจะช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่จะนำไปสู่การหกล้มได้ จึงควรปรับปรุงที่อยู่อาศัยให้เหมาะสมกับสภาวะของผู้สูงอายุแต่ละรายเช่น
- ติดราวจับในห้องน้ำและบันได
- ปรับพื้นให้ไม่ลื่น
- จัดแสงสว่างให้เพียงพอในทุกห้อง
- ใช้เครื่องช่วยเดินที่เหมาะสม
ผู้สูงอายุที่จำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยเดินต้องมีการเรียนรู้วิธีใช้งานเครื่องช่วยเหล่านั้นอย่างถูกต้องรวมถึงการเลือกใช้งานให้เหมาะสมกับตนเอง - หลีกเลี่ยงการสวมรองเท้าหรือรองเท้าแตะที่ไม่กระชับ
รองเท้าที่เหมาะสมคือรองเท้าที่ผู้สูงอายุสวมใส่ได้พอดี ไม่หลวมหรือคับจนเกินไป นอกจากนี้ควรใช้รองเท้าพื้นยางที่กันลื่นได้ดีก็จะช่วยป้องกันการหกล้มสำหรับผู้สูงอายุได้เช่นกัน
สรุป
แม้ว่า “การหกล้ม” จะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่สำหรับผู้สูงอายุแล้ว ผลกระทบอาจรุนแรงเกินคาด การดูแลป้องกันตั้งแต่เนิ่น ๆ ทั้งในด้านร่างกาย จิตใจ และสิ่งแวดล้อมจะช่วยลดความเสี่ยงลงได้อย่างมาก ครอบครัวและผู้ดูแลควรใส่ใจในรายละเอียดเล็กน้อยเหล่านี้ เพื่อให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดี ปลอดภัย และมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน