การหกล้มในผู้สูงอายุ: ภัยเงียบที่ไม่ควรมองข้าม

ปัญหาใหญ่สำหรับผู้สูงอายุก็คือการหกล้ม เพราะการหกล้มในผู้สูงอายุเป็นปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยและรุนแรงกว่าที่หลายคนคิด โดยเฉพาะในประเทศไทยที่กำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างรวดเร็ว การหกล้มอาจก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงกระดูกหัก หรือแม้กระทั่งเสียชีวิต อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อจิตใจและคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุอย่างมาก นอกจากนี้การหกล้มของผู้สูงอายุเพียงครั้งเดียวในบ้านก็อาจเป็นสาเหตุของผลพวงปัญหาที่ตามมามากมายในครอบครัว ในบทความนี้เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาการหกล้มของผู้สูงอายุกันค่ะ

 

สาเหตุที่พบบ่อยของการหกล้มในผู้สูงอายุ

  1. การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายตามวัย
    การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายถือเป็นปัญหาหลักที่ทำให้ผู้สูงอายุมีโอกาสหกล้มได้ง่ายขึ้น โดยปัญหาที่พบมักจะได้แก่ปัญหากล้ามเนื้ออ่อนแรง ปัญหาการทรงตัวไม่ดี ปัญหาทางด้านสายตาพร่ามัว หรือแม้กระทั่งการตอบสนองช้าลง บางครั้งเราอาจพบปัญหาของโครงสร้างและท่าทางของผู้สูงอายุที่เปลี่ยนแปลงไปเช่นตัวก้ม ตัวห่อมากเกินไป เหล่านี้คือสาเหตุที่ทรงผลให้ผู้สูงอายุเพิ่มความเสี่ยงที่จะหกล้มได้เช่นกัน
  2. โรคประจำตัว
    โรคประจำตัวบางชนิดก็เพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้ผู้สูงอายุหกล้มได้เช่นกัน เช่นโรคความดันโลหิต โรคพาร์กินสัน เบาหวาน หรือโรคเกี่ยวกับระบบประสาท โดยอาจส่งผลให้ผู้สูงอายุเกิดอาการเวียนศีรษะหรือไปขัดขวางการเคลื่อนไหวปกติทำให้หกล้มได้ง่ายขึ้น
  3. ผลข้างเคียงจากยา
    ผลที่ตามมาจากโรคประจำตัวก็คือการต้องใช้ยาบางชนิดที่อาจส่งผลข้างเคียงอย่างการทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะ ง่วงนอน หรือสูญเสียการทรงตัวซึ่งก็จะไปส่งผลกระทบให้ผู้สูงอายุมีความเสี่ยงหกล้มได้เช่นกัน
  4. สิ่งแวดล้อมในบ้าน
    การจัดสิ่งแวดล้อมในบ้านที่ไม่เหมาะสมก็เพิ่มความเสี่ยงหกล้มในผู้สูงอายุได้เช่นกันเช่นเฟอร์นิเจอร์และของใช้ในบ้านที่รกหรือระเกะระกะ การปูกระเบื้องที่ลื่นเกินไป การวางพรมที่หลวมและลื่นได้ รวมถึงแสงสว่างไม่เพียงพอ สิ่งเหล่านี้มีโอกาสทำให้ผู้สูงอายุหกล้มได้เช่นกัน
  5. การใช้เครื่องช่วยเดินอย่างไม่ถูกวิธี
    ผู้สูงอายุบางรายมีปัญหาในการใช้เครื่องช่วยเดิน บางคนไม่คุ้นเคยกับการใช้ไม้เท้า หรือวอล์กเกอร์ หรือบางคนใช้เครื่องช่วยเดินที่ไม่เหมาะสมกับร่างกาย เหล่านี้ก็เป็นปัญหาที่เพิ่มความเสี่ยงหกล้มให้ผู้สูงอายุได้เช่นกัน

ผลกระทบจากการหกล้ม

  • ภาวะกระดูกหัก โดยเฉพาะกระดูกสะโพกหรือข้อมือ หากเป็นกระดูกชิ้นเล็กอย่างข้อมือก็อาจสร้างผลกระทบไม่มากแต่หากเป็นกระดูกสะโพกหักก็มีโอกาสที่จะสร้างปัญหาใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อตัวผู้สูงอายุและครอบครัวไม่น้อย
  • เลือดออกในสมอง หากการหกล้มนั้นรุนแรงมากจนศีรษะฟาดพื้น ความเสี่ยงที่จะเกิดเลือดออกในสมองเพราะผู้สูงอายุเวลาหกล้มมักจะไม่สามารถยั้งตัวได้ทำให้การหกล้มแต่ละครั้งจะรุนแรงมากกว่าปกติ
  • ความกลัวการล้มซ้ำ ส่งผลให้ไม่กล้าเคลื่อนไหวโดยผู้สูงอายุที่ล้มบ่อย ๆ มักจะมีปัญหากลัวการหกล้มซ้ำ โดยบางรายอาจเกิดภาวะแพนิคจนไม่กล้าที่จะเคลื่อนไหว ซึ่งส่งผลให้อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ขึ้นตามมา
  • สูญเสียความสามารถในการช่วยเหลือตนเอง ในรายที่เกิดภาวะกระดูกหักโดยเฉพาะหากเป็นกระดูกในจุดสำคัญ ผู้สูงอายุเหล่านี้จะไม่สามารถเคลื่อนไหวตัวเองได้ บางรายอาจต้องนอนพักรักษาอาการกระดูกหักอยู่บนเตียง สำหรับผู้สูงอายุที่ต้องอยู่ติดกับเตียงเป็นเวลานานโดยไม่ได้ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวเลย พวกเขาจะค่อย ๆ สูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหวลงและจะค่อย ๆ สูญเสียความสามารถในการช่วยเหลือตนเองไปในที่สุด
  • ภาวะซึมเศร้าและคุณภาพชีวิตที่ลดลง เมื่อผู้สูงอายุไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ในหลายรายจะพบว่าจะเริ่มมีภาวะซึมเศร้าตามมา และเริ่มรู้สึกว่าตนเองเป็นภาระและท้ายที่สุดก็จะนำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ลดลงและอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ลดทอนคุณภาพชีวิตตามมา

 

วิธีป้องกันการหกล้มในผู้สูงอายุ

  1. ตรวจสุขภาพสม่ำเสมอ
    เพื่อตรวจสอบการมองเห็น การได้ยิน และภาวะสุขภาพโดยรวมว่ามีโรคหรือความบกพร่องใดที่จะเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้สูงอายุหกล้มบ่อย เพื่อจะได้ป้องกันการหกล้มที่อาจเกิดขึ้น
  2. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
    เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและการทรงตัว รวมถึงความยืดหยุ่นของร่างกาย โดยการออกกำลังกายมีความสำคัญที่ช่วยป้องกันภาวะหกล้มในผู้สูงอายุได้
  3. ปรับปรุงสภาพแวดล้อมในบ้าน

การปรับปรุงที่อยู่อาศัยให้เหมาะสมจะช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่จะนำไปสู่การหกล้มได้ จึงควรปรับปรุงที่อยู่อาศัยให้เหมาะสมกับสภาวะของผู้สูงอายุแต่ละรายเช่น

    • ติดราวจับในห้องน้ำและบันได
    • ปรับพื้นให้ไม่ลื่น
    • จัดแสงสว่างให้เพียงพอในทุกห้อง
  1. ใช้เครื่องช่วยเดินที่เหมาะสม
    ผู้สูงอายุที่จำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยเดินต้องมีการเรียนรู้วิธีใช้งานเครื่องช่วยเหล่านั้นอย่างถูกต้องรวมถึงการเลือกใช้งานให้เหมาะสมกับตนเอง
  2. หลีกเลี่ยงการสวมรองเท้าหรือรองเท้าแตะที่ไม่กระชับ
    รองเท้าที่เหมาะสมคือรองเท้าที่ผู้สูงอายุสวมใส่ได้พอดี ไม่หลวมหรือคับจนเกินไป นอกจากนี้ควรใช้รองเท้าพื้นยางที่กันลื่นได้ดีก็จะช่วยป้องกันการหกล้มสำหรับผู้สูงอายุได้เช่นกัน

 

สรุป

แม้ว่า “การหกล้ม” จะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่สำหรับผู้สูงอายุแล้ว ผลกระทบอาจรุนแรงเกินคาด การดูแลป้องกันตั้งแต่เนิ่น ๆ ทั้งในด้านร่างกาย จิตใจ และสิ่งแวดล้อมจะช่วยลดความเสี่ยงลงได้อย่างมาก ครอบครัวและผู้ดูแลควรใส่ใจในรายละเอียดเล็กน้อยเหล่านี้ เพื่อให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดี ปลอดภัย และมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน

 

Visitors: 619,164