Q : ถ้ามาทำกายภาพบำบัดแล้วเรายังต้องทานยาแก้ปวดอีกไหม

A :     

     เมื่อเรามีอาการเจ็บปวดมาก ๆ เช่น การปวดหลัง ปวดคอ สิ่งแรกๆที่เราจะใช้เพื่อบรรเทาอาการปวดก็คือยาแก้ปวด แต่การรักษาทางกายภาพบำบัด อาการปวดของคนไข้คือสิ่งที่นักกายภาพบำบัดใช้เพื่อตรวจประเมินหาสาเหตุของปัญหา และใช้เพื่อประเมินว่า การรักษาที่ให้ไปนั้นเหมาะสมกับคนไข้หรือไม่ หากคนไข้ทานยาแก้ปวดและอาการปวดหายไปขณะมารับการรักษาจะทำให้การแปลผลของการตรวจร่างกายและการรักษาไม่ตรงกับความเป็นจริง แต่หากคนไข้มีอาการปวดจนทนไม่ไหวจริง ๆ คนไข้สามารถทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการปวดของตนเองได้แต่ไม่ควรทานบ่อยเกินความจำเป็น ซึ่งเรามีคำแนะนำเกี่ยวกับการใช้ยาแก้ปวดควบคู่กับการรักษาทางกายภาพบำบัดดังนี้ค่ะ

  • เมื่อมารับการรักษาเป็นครั้งแรก : ก่อนที่จะมาพบนักกายภาพบำบัด ควรหยุดใช้ยาแก้ปวดอย่างน้อย 4 ชั่วโมงแต่ให้นำยาแก้ปวดติดตัวมาด้วยหากมีอาการปวดมากจะได้ทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการได้
  • ในระหว่างการรักษา ควรใช้ยาแก้ปวดให้น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น  และใช้การปรับเปลี่ยนท่าทางให้อยู่ในท่าที่ถูกต้องร่วมกับการทำท่าบริหารที่นักกายภาพบำบัดแนะนำเพื่อช่วยลดอาการปวดแต่หากอาการปวดไม่ทุเลาก็ควรทานยาแก้ปวด
  • เมื่ออาการปวดรบกวนอาการนอนหลับ หากคนไข้มีอาการปวดที่รบกวนการนอนหลับในเวลากลางคืนทำให้นอนไม่หลับควรทานยาแก้ปวดเพื่อให้สามารถนอนหลับได้

     การใช้ยาแก้ปวดในปริมาณที่มากเกินจำเป็นอาจเกิดผลเสียต่อร่างกายได้ วิธีการใช้ยาแก้ปวดที่ถูกต้องคือใช้เท่าที่จำเป็นและควรจะหาสาเหตุของอาการปวดเพื่อแก้ไข จึงจะเป็นวิธีการดูแลตนเองที่ถูกต้อง

Visitors: 605,034